หมอเตือนอากาศเย็น ! อย่าดื่มเหล้าดับหนาว ชี้เสี่ยงเกิด ภาวะตัวเย็นเกิน อันตรายถึงชีวิต!
หมอเตือนอากาศเย็น ! อย่าดื่มเหล้าดับหนาว ชี้เสี่ยงเกิด “ภาวะตัวเย็นเกิน” อันตรายถึงชีวิต! อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ย้ำเตือนประชาชนในพื้นที่อากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะคนหนุ่ม-สาว ผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงดื่มเหล้าคลายความหนาว ชี้เป็นเพียงความเชื่อทั่วโลกพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไขความกระจ่างแล้ว พบไม่ได้ผล และเสี่ยงเกิดอาการที่เรียกว่า “ไฮโปเทอร์เมีย” หรือภาวะตัวเย็นเกิน เนื่องจากฤทธิ์เหล้าขับความร้อนออกจากร่างกายเร็วขึ้น ส่งผลให้อวัยวะทุกส่วนสูญเสียหน้าที่ มีอาการเหมือนคนเมา เช่น พูดอ้อแอ้ เดินเซ สับสน อันตรายถึงเสียชีวิต แนะวิธีปลอดภัย ควรสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นโดยเฉพาะที่ศีรษะ ลำคอ หน้าอก กินอาหารครบ 5 หมู่ นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สภาพอากาศหลายพื้นที่หนาวเย็นลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมสบส.มีความเป็นห่วงสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะการมีพฤติกรรมที่เกิดมาจากความเชื่อที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งพบได้ในฤดูหนาวทุกปี ที่พบบ่อยได้แก่ความเชื่อที่ว่าการดื่มเหล้าจะช่วยแก้หนาวได้ ซึ่งเรื่องนี้ปรากฏหลายพื้นที่ทั่วโลกไม่เฉพาะประเทศไทยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ยืนยันและเผยแพร่บนเว็บไซต์แก้ไขความเข้าใจผิดเช่นกันว่า การดื่มเหล้าแก้หนาวเป็นความเชื่อที่เป็นผลร้ายต่อร่างกาย ถึงขั้นทำลายชีวิตตนเองได้ โดยทั่วไปในสภาพที่มีอากาศเย็น ร่างกายจะมีกลไกการทำงานพยายามรักษาความอบอุ่นในร่างกายให้อยู่ในสภาพที่ทนต่อสภาวะที่เย็นได้ อาจมีอาการสั่นปรากฏได้ เพื่อเพิ่มอุณหภูมิภายในร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ปกติคือ 37 องศาเซลเซียส อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกล่าวต่อว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดขณะอากาศหนาวเย็น หลังจากดื่มในช่วงแรกจะรู้สึกว่าร้อนวูบวาบที่ผิวหนัง หน้าแดง เนื่องจากจะเกิดในช่วงสั้นๆ เท่านั้น อาการดังกล่าวเกิดมาจากเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ผู้ดื่มจะสูญเสียความร้อนออกจากร่างกายง่ายขึ้น โดยมีงานวิจัยที่เป็นหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายสูบฉีดเลือดออกไปที่บริเวณผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการขับเหงื่อออก ความร้อนจะถูกระบายออกจากผิวหนังมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้อุณหภูมิของร่างกายลดต่ำลง หากอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียสลงไปจะทำให้เกิดภาวะที่ทางการแพทย์เรียกว่า ไฮโปเทอร์เมีย (Hypothermia) หรือเรียกง่ายๆว่า ภาวะตัวเย็นเกิน ร่างกายไม่สามารถสร้างและเก็บความร้อนได้ ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะทุกส่วน ในระยะแรกผู้ดื่มจะมีอาการสั่น พูดอ้อแอ้ สับสน เดินเซ งุ่มง่าม คล้ายคลึงกับคนเมาเหล้ามากจนทำให้เข้าใจผิดว่าเมาเหล้า และหากอุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงไปเรื่อยๆ ผู้ดื่มจะมีอาการเพ้อ ไม่รู้ตัว ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อาจถอดเสื้อผ้าออกขณะอากาศหนาวเย็น หมดสติและอาจเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นเหล้าจึงไม่ได้ช่วยสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายเหมือนที่เชื่อกัน “ภาวะตัวเย็นเกิน มีโอกาสเกิดได้ในคนวัยหนุ่มสาวที่ดื่มเหล้าในช่วงอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป หากดื่มเหล้าจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น เนื่องจากผู้สูงอายุมีเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและไขมันมีน้อยและมีการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด เกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำง่ายขึ้น ซึ่งกรมสบส.ได้ขอความร่วมมืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือสม. โดยเฉพาะในพื้นที่ 39จังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีประมาณ 700,000 คน ให้ความรู้ความเข้าใจถึงอันตรายของการดื่มเหล้าในช่วงอากาศหนาวเย็นให้แก่ประชาชนในความดูแล10-15 หลังคาเรือนอย่างต่อเนื่อง” นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรืองกล่าว สำหรับการดูแลสุขภาพในช่วงฤดูหนาว ขอให้ประชาชนสวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกายให้เพียงพอ ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน อวัยวะที่ต้องให้ความอบอุ่นมากเป็นพิเศษคือ ศีรษะ ลำคอ และหน้าอก สวมถุงมือถุงเท้า ไม่นอนในที่ลมโกรกหรือโล่งแจ้ง หรือผิงไฟ ความอบอุ่นจะช่วยให้หัวใจบีบตัว ทำงานส่งเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆในร่างกายได้สะดวก และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้พลังงานแก่ร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างไรก็ดี ได้ให้ อสม.เป็นผู้นำกระตุ้นให้ประชาชนในหมู่บ้าน ออกกำลังกายสม่ำเสมอรวมทั้งสำรวจปัญหาสุขภาพและความขาดแคลนเครื่องให้ความอบอุ่นร่างกายแก่ผู้ที่จำเป็น เช่น ผู้พิการ ผู้สูงอายุ เพื่อประสานบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน