กรม สบส.ประชุมทางไกล สสจ.ทั่วประเทศ เตรียมพร้อมจดทะเบียนสปา นวด เพื่อคุ้มครองประชาชน

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ชี้แจงแนวทาง การปฏิบัติ การเตรียมความพร้อมตรวจประเมินคุณภาพ มาตรฐานสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ รวมถึงการออกใบอนุญาตประกอบกิจการ ผู้ดำเนินการ และการขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการ ตามพระราชบัญญัติ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ให้เป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ วันนี้ (13 กันยายน 2559) ที่ห้องประชุม 2 ชั้น 2 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) พร้อมด้วยนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการ กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีทัศน์ แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงความเข้าใจเกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 และเตรียมความพร้อมการตรวจประเมินคุณภาพ มาตรฐานสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ การออกใบอนุญาตประกอบกิจการ ผู้ดำเนินการ และการขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการ ในกิจการสถานประอบการเพื่อสุขภาพทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ สปา นวด เพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงาม ก่อน พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 กันยายน 2559 นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวว่า ในวันที่ 27 กันยายน 2559 ซึ่งเป็นวันแรกที่ พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้ คาดว่าจะมีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพนับพันแห่ง และบุคลากรทั้งผู้ดำเนินการ และผู้ให้บริการนับหมื่นรายทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ยื่นเรื่องขออนุญาตประกอบกิจการ ขออนุญาตเป็นผู้ดำเนินการในสปา และขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการตามที่พ.ร.บ.กำหนด ไปยังกรมสบส.และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการออกใบอนุญาต และขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการ จึงต้องซักซ้อมทำความเข้าใจ แนวทางการตรวจประเมินคุณภาพมาตรฐาน สถานประกอบการฯเพื่อออกใบอนุญาต ให้เป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ ทางด้านนายแพทย์ธงชัย กล่าว่า สถานที่ตั้งของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทุกประเภทที่ขออนุญาต จะต้องไม่อยู่ในอาคารเดียวกับสถานบริการที่ขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน โดยต้องจัดให้มีชุดปฐมพยาบาลที่พร้อมใช้งานตลอดเวลาการให้บริการ เพื่อความปลอดภัยต่อตัวผู้รับบริการ กำหนดเวลาเปิด-ปิดตามกฎหมาย โดยสปา นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงาม เปิดเวลา 06.00-24.00 น. และหากเป็นสปาเพื่อสุขภาพจะต้องมีผู้ดำเนินการที่ได้รับใบอนุญาต บริหาร จัดการ ดูแลตลอดเวลาทำการ รวมทั้งผู้ให้บริการในสปา และนวดทุกคนจะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมสบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ส่วนการคิดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ให้บริการ ไม่ขึ้นกับจำนวนเตียงนวด