สบส.เผยรอบ 6 เดือนปีนี้ คลินิกมีแนวโน้มทำผิดเพิ่มขึ้น ลงดาบแล้ว 16 ราย ห้าม!! หมอเดินสายรักษา
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประชุมผู้ประกอบการคลินิกทั่วกทม. ให้ร่วมสร้างความเชื่อมั่นและรับผิดชอบต่อผู้บริโภค เน้นให้ปฏิบัติตามกฎหมาย สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และกฎหมายวิชาชีพอย่างเคร่งครัด ชี้แพทย์ต้องประจำการที่คลินิกตลอดเวลา ห้ามเดินสายรักษาที่อื่น เผยในรอบ 6 เดือน ปี 2559 ได้รับเรื่องร้องเรียน 205 เรื่องดำเนินคดีไปแล้ว 16 ราย ส่วนใหญ่ ลักลอบเปิดคลินิก และใช้ผู้ที่ไม่ใช่แพทย์รักษา วันนี้ (9 มิถุนายน 2559) ที่ห้องประชุม กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมผู้ประกอบกิจการ ผู้ดำเนินการคลินิก ในกทม.ทั้งหมด เพื่อส่งเสริมให้คลินิกปฏิบัติตามกฎหมาย ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นและรับผิดชอบแก่ผู้บริโภค ให้ได้รับการบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัย นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวว่า ผลการคุ้มครองผู้บริโภคของกรม สบส. รอบ 6 เดือนแรก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ตั้งแต่ ต.ค. 58 – มี.ค. 59 ได้รับเรื่องร้องเรียน จำนวน 205 เรื่อง โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ซึ่งตลอดปีมี 348 เรื่อง ส่วนใหญ่มาจากการให้บริการของคลินิก เช่น บริการไม่สุภาพ ในจำนวนนี้ได้ดำเนินคดี จำนวน 16 ราย กระทำผิด เช่น การเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยากับ อย. เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบการกระทำผิดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ถึงร้อยละ 33 ดังนั้น จึงต้องชี้แจง ทำความเข้าใจ ผู้ประกอบกิจการ ผู้ดำเนินการ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากทุกแห่งมีมาตรฐานจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้รับบริการทั้งไทยและเทศ รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อวงการแพทย์ไทย ที่ใส่ใจคุณภาพบริการมากกว่าผลกำไร นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ได้กำชับให้คลินิกทุกแห่งทั้งใน กทม. หรือต่างจังหวัด ให้รักษาคุณภาพมาตรฐานทั้ง 4 ด้าน รวมทั้งการโฆษณาให้ถูกต้องตามกฎหมายสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ประกอบด้วย 1.สถานที่ต้องสะอาด มีห้องตรวจหรือห้องให้การรักษาเป็นสัดส่วน มิดชิด ปลอดภัยต่อผู้รับบริการ เครื่องมือได้มาตรฐาน 2.ต้องมีแพทย์ประจำการที่คลินิกตลอดเวลาทำการ ห้ามเดินสายรักษาที่อื่น หากตรวจพบผู้ประกอบกิจการจะมีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.เครื่องมือ ยาและเวชภัณฑ์ที่ใช้ในคลินิก ต้องมีทะเบียน อย. และ 4.ชื่อคลินิก ต้องไม่ใช้คำที่มีลักษณะชักชวน เป็นเท็จ หรือโอ้อวดเกินจริง เช่น ศูนย์บริการครบวงจร แห่งแรก เป็นต้น และห้ามโฆษณาเครื่องมือแพทย์ว่าสามารถป้องกัน บำบัด บรรเทา รักษา 7 กลุ่มโรค ได้แก่ มะเร็ง เบาหวาน อัมพฤกษ์หรือ อัมพาต จิตเวช ความดันโลหิต เอดส์ และโรคหรืออาการทางสมอง หัวใจ ปอด ตับ ม้าม ไต ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2556 เป็นต้นมา หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ขณะนี้กรม สบส. ได้ขึ้นทะเบียคลินิกต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 23,488 แห่ง กว่าร้อยละ 80 อยู่ในต่างจังหวัด ที่เหลืออยู่ใน กทม. 4,955 แห่ง ประเภทวิชาชีพ 12 สาขา ได้แก่ คลินิกเวชกรรมทั่วไปและเฉพาะทาง คลินิกทันตกรรมทั่วไปและเฉพาะทาง คลินิกทันตกรรม ชั้น 2 คลินิกการแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกสหคลินิก คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้น 2 และมีคลินิกประเภทการประกอบโรคศิลปะ ที่เกิดขึ้นใหม่ในปี 2558 อีก 7 ประเภท ในจำนวนนี้เปิดดำเนินการแล้ว คือ สาขาการแพทย์แผนจีน จำนวน 66 แห่ง อยู่ใน กทม. 31 แห่ง ที่เหลืออยู่ในต่างจังหวัด ส่วนอีก 6 ประเภท ได้แก่ สาขารังสีเทคนิค สาขากายอุปกรณ์ สาขากิจกรรมบำบัด สาขาจิตวิทยาคลินิก สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก สาขาแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย ยังไม่มีผู้ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการ