กรมสบส. เดินหน้า เอาผิดสถานพยาบาลผ่าตัดเสริมความงามให้สุรชัย โทษฐาน “โฆษณา”
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เดินหน้าเอาผิดสถานพยาบาลที่ดำเนินการผ่าตัดเสริมความงามในศิลปินชื่อดัง สุรชัย สมบัติเจริญ โทษฐานโฆษณา เน้นย้ำสถานพยาบาลที่ให้บริการเสริมความงามทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับอย่างเคร่งครัด โดยอนุญาตให้โฆษณาได้ 6 ประการเท่านั้น โดยสามารถโทรปรึกษาได้ที่กองกฎหมาย หมายเลข 02-193-7041 ในวันและเวลาราชการ นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะดำเนินการเอาผิดสถานพยาบาลที่ทำการผ่าตัดเสริมความงามให้นายสุรชัย สมบัติเจริญ ในโทษฐานการโฆษณา เป็นไปตามกฎหมาย 2 ฉบับคือพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2546 ว่าด้วยเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณาสถานพยาบาล โดยจะนำหลักฐานการสอบสวนข้อเท็จจริง เข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องการโฆษณาสถานพยาบาล ในวันที่ 4 มีนาคม 2559 นี้ โดยไม่คำนึงถึงการทำด้วยวิธีเฟซออฟหรือวิธีอื่นใดๆก็ตาม นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวต่อว่า ขอให้สถานพยาบาลที่ให้บริการเสริมความงามทั่วประเทศ ปฏิบัติตามกฎหมายห้ามโฆษณาอย่างเคร่งครัด โดยการโฆษณา สามารถกระทำได้เพียง 6 เงื่อนไขดังนี้ 1.การโฆษณาชื่อและที่ตั้ง ถ้ามีการแสดงภาพประกอบ ให้แสดงเฉพาะที่ตั้งอาคารและอาคารสถานพยาบาล สำหรับการโฆษณาคุณวุฒิ หรือความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพนั้น 2.การโฆษณาบริการทางการแพทย์ ให้แจ้งเฉพาะบริการที่มีในสถานพยาบาล วันเวลาที่ให้บริการตามที่ได้รับอนุญาต 3.การโฆษณาแจ้งอัตราค่ารักษาพยาบาลหรือค่าบริการที่มีในสถานพยาบาล 4.การโฆษณาอัตราค่ารักษาพยาบาลหรือค่าบริการที่มีเงื่อนไขจะต้องแจ้งรายละเอียดของเงื่อนไขการโฆษณานั้น และจะต้องเจ้งเงื่อนไขให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้าก่อนให้บริการ โดยการโฆษณาแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาลนั้นจะต้องกำหนดวันเริ่มต้นและสิ้นสุดของระยะเวลาที่ใช้อัตราค่ารักษาพยาบาลหรือค่าบริการในเรื่องนั้นๆ ให้ชัดเจน 5.การเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการทางการแพทย์และเผยแพร่งานวิจัย ทั้งนี้ต้องให้ระบุคำเตือนไว้ว่ามีความเสี่ยงของการไม่ได้ผลหรืออาจเกิดอันตรายหรือเกิดผลข้างเคียงกับผู้ใช้บริการ โดยกำหนดขนาดอักษรต้องเท่ากับตัวอักษรที่โฆษณา และความเร็วของเสียงต้องไม่เร็วไปกว่าเสียงปกติ และ6.การโฆษณาเพื่อแจ้งข่าวสารแก่ประชาชน เช่น แจ้งทำลายเวชระเบียน แจ้งย้ายสถานที่ แจ้งกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ ให้กระทำได้ โดยเฉพาะกิจกรรมและวันเวลาที่จัดกิจกรรมนั้น สำหรับประเด็นที่เข้าข่ายการกระทำผิดการโฆษณาสถานพยาบาลหลักๆ มี 3 ประการ ได้แก่ 1.การโฆษณาในทำนองชักชวน หรือเชิญชวนให้ประชาชนมาใช้บริการสถานพยาบาลของตน 2.การโฆษณาโอ้อวด หรือเป็นเท็จ และ3.การโฆษณาให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญของสถานพยาบาล ทั้งนี้หากสถานพยาบาลใด ไม่แน่ใจว่าการใช้ถ้อยคำโฆษณา จะฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ สามารถหารือได้ที่กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โทร 02-193-7041 ในวันและเวลาราชการ