สบส. ป้องกัน หมอจีนเถื่อน ออกกฎเข้ม กรณีเป็นต่างชาติ ต้องสอบใบประกอบโรคศิลปะทุกคน
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พัฒนามาตรฐานสถานพยาบาลการแพทย์แผนจีน 468 แห่งทั่วประเทศ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยประชาชนทั่วไปและสิทธิสวัสดิการข้าราชการ ได้รับบริการอย่างมีคุณภาพมาตรฐาน เน้นมาตรการป้องกันหมอจีนเถื่อน กำหนดให้แพทย์แผนจีนต่างชาติ ต้องสอบขึ้นทะเบียนใบประกอบโรคศิลปะก่อน และต่อใบอนุญาตทุก 2 ปี ล่าสุดทั่วประเทศมีแพทย์แผนจีนขึ้นทะเบียน 792 คน ในจำนวนนี้เป็นต่างชาติ 70 คน นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กระแสการแพทย์ทางเลือก กำลังได้รับความนิยมจากประชาชน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการแพทย์แผนจีน ที่อาจกล่าวได้ว่าได้รับความนิยมสูงที่สุดในบรรดาการแพทย์ทางเลือกทั้งหมด และได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่าได้ผลทางการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย เช่นการฝังเข็ม การรักษาด้วยการนวดแบบจีนหรือทุยหนา การตรวจโดยวิธีจับชีพจร การรักษาด้วยยาสมุนไพรจีนเป็นต้น ซึ่งกรณีนี้อาจมีผู้ฉกฉวยโอกาสกระทำผิดกฎหมาย หลอกลวงประชาชนได้ ข้อมูลล่าสุดปี 2558 มีสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนเปิดให้บริการการแพทย์แผนจีนรวม 468 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นสถานพยาบาลภาครัฐทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 357 แห่ง ที่เหลืออีก 111 แห่งอยู่ในภาคเอกชน โดยอยู่ในภาคกลางมากที่สุด 257 แห่ง บริการรักษาด้านการแพทย์แผนจีนที่เปิดดำเนินการในประเทศขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการฝังเข็มบรรเทาอาการปวดต่างๆ ล่าสุดนี้ กรมบัญชีกลาง ได้กำหนดให้ข้าราชการและครอบครัว สามารถเบิกค่าบริการสาขานี้ได้ด้วยเช่นตรวจเวชกรรมจีน การฝังเข็ม เป็นต้น นายแพทย์ธงชัยกล่าวต่อว่า กรม สบส. ได้ควบคุมมาตรฐานสถานพยาบาลและผู้ประกอบวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ มาตรฐาน มีความปลอดภัย โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาหมอจีนเถื่อน กำหนดให้แพทย์แผนจีนทั้งหมด จะต้องสอบขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ขณะนี้มีผู้ประกอบการโรคศิลปะสาขานี้ขึ้นทะเบียนทั่วประเทศ 792 คน เป็นคนไทย 722 คน สำหรับชาวต่างประเทศที่จะมาประกอบวิชาชีพแพทย์แผนจีนในประเทศไทย จะต้องมีหนังสือรับรองวุฒิการศึกษาจากสถาบันการศึกษาแพทย์ที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีนและกระทรวงสาธารณสุขไทยให้การรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีจำนวน 33 แห่ง และต้องสอบขึ้นทะเบียนขออนุญาตประกอบโรคศิลปะ โดยต้องต่อใบอนุญาตทุก 2 ปี ขณะนี้มี แพทย์แผนจีนที่เป็นชาวต่างประเทศขึ้นทะเบียนแล้ว 70 คน กรณีที่กระทำผิด ประพฤติผิดเงื่อนไขการประกอบโรคศิลปะ หรือจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ จะมีบทลงโทษตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 ตั้งแต่สถานเบาคือว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาต 2 ปี และรุนแรงที่สุดคือเพิกถอนใบอนุญาต หากไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะจัดอยู่ประเภทหมอเถื่อนเช่นกัน ซึ่งจะมีคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีนเป็นผู้ดูแลกำกับ ทางด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 25-26 มกราคม 2559 นี้ สำนักสถานพยาบาลฯได้ร่วมมือกับสมาคมแพทย์แผนจีน สถาบันการศึกษาที่จัดการเรียนการสอนหลักสูตรการแพทย์แผนจีนบัณฑิตระดับปริญญาตรี และคลินิกหัวเฉียวไทย-จีน จัดประชุมสัมมนา แก่แพทย์แผนจีนทั่วประเทศนักศึกษาด้านการแพทย์แผนจีน และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เรื่องมาตรฐานการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนในสถานพยาบาล ประจำปี 2559 ที่โรงแรมนารายณ์ กรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงแนวทางควบคุมมาตรฐานจรรยาบรรณวิชาชีพ และการพัฒนาความรู้ความก้าวหน้าทางวิชาการ การต่อยอดการพัฒนาระบบบริการสุขภาพของประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการมีคุณภาพมาตรฐาน เช่นการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตในประเทศไทยโดยเทคนิคมังกรไฟ การรักษาอาการนอนไม่หลับ ภัยเงียบกับโรคทางมือ ข้อห้ามและข้อระวังการรักษาด้วยการนวดทุยหนา การักษาโรคประจำเดือนมาไม่ปกติโดยวิธีบำรุงไต การดูลักษณะล้นคนไข้โรคไตวายระยะสุดท้าย การควบคุมคุณภาพการใช้สมุนไพร เป็นต้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาทักษะ รวมถึงความก้าวหน้าในการรักษาพยาบาลด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนในปัจจุบัน