กรม สบส.ร่วมสสจ.นนทบุรี อ.ปากเกร็ด และตำรวจ ลุยตรวจคลินิกตอกเส้น !!
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี นายอำเภอปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ลุยตรวจอวตารคลินิกการแพทย์แผนไทย สาขาวัดกู้ พบให้บริการตอกเส้นโดยผู้ที่มิใช่แพทย์แผนไทย ชี้ผู้มีสิทธิ์ให้บริการบำบัด รักษา ฟื้นฟูอาการของโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยจะต้องขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยก่อน หากกระทำโดยพลการถือว่าเป็นหมอเถื่อน จากกรณี ที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล ถึงสถานพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนนทบุรีให้บริการตอกคลายกล้ามเนื้อที่อยู่ชิดกระดูก หรือกล้ามเนื้อที่อยู่ชิดขอบกระดูก เพื่อรักษาโรคปวดหลัง ปวดเอว และหมอนรองกระดูกทับเส้น ซึ่งมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการตอกที่รุนแรงและวิธีรักษาในลักษณะนี้ นั้น นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เมื่อเย็นวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กรม สบส.ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่จากกองกฎหมาย ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี นายอำเภอปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบอวตารคลินิกการแพทย์แผนไทย สาขาวัดกู้ จากการตรวจสอบพบว่าสถานพยาบาลดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมาย โดยเปิดให้บริการตอกเส้นที่ชั้น 2 ของสถานพยาบาล ซึ่งขณะที่พนักงานเจ้าหน้าที่ฯเข้าตรวจสอบพบผู้ให้บริการตอกเส้น จำนวน 5 คน แต่ไม่พบผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการแต่อย่างใด พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงแสดงตนขอตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยจากผู้ให้บริการทั้ง 5 คน ซึ่งพบว่าทั้ง 5 คน ไม่มีใบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย ในเบื้องต้นพนักงานเจ้าหน้าที่ฯจึงได้แจ้งผู้ให้บริการทั้ง 5 คน รับทราบถึงการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2556 ข้อหาประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือหมอเถื่อน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับ เจ้าของกิจการจะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ข้อหาประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยมิได้จัดให้มีแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ดำเนินการจะมีความผิดในข้อหาให้ผู้ที่มิใช่แพทย์แผนไทยมาให้บริการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะมีการเรียกตัวเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป อย่างไรก็ตาม ก่อนรับบริการรักษาพยาบาล บำบัดรักษาโรคไม่ว่าจะด้วยศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบัน หรือการแพทย์แผนไทย ขอให้ประชาชนพิจารณาอย่างรอบด้าน อย่าหลงรับบริการเพียงเพราะคำบอกเล่าปากต่อปาก เสียงเล่าลือว่าดี หรือราคาถูก โดยจะต้องเลือกรับบริการจากสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น หากเป็นคลินิกการแพทย์แผนไทยจะต้องแสดงชื่อคลินิกตัวอักษรสีน้ำเงินบนแผ่นป้ายสีขาว พร้อมเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักติดไว้ด้านหน้าคลินิก โดยเลขที่ใบอนุญาตต้องตรงกับใบขออนุญาตเปิดคลินิกที่ติดไว้ในคลินิกให้เห็นได้ชัดเจน มีการแสดงเอกสารชำระค่าธรรมเนียมที่เป็นปีปัจจุบัน และมีการแสดงภาพถ่ายพร้อมเลขที่ใบอนุญาตของผู้ให้บริการที่หน้าห้องตรวจเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพจริง ถ้าหากพบว่าคลินิกใดไม่มีการแสดงหลักฐานข้างต้นหรือแสดงไม่ครบถ้วน ไม่ควรรับบริการและให้แจ้งมาที่กรม สบส.ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18822 หรือ 18618 หรือทางเฟซบุ๊ก : สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน และศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส. กระทรวงสาธารณสุข ในวันและเวลาราชการ สำหรับส่วนภูมิภาคให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป