กรม สบส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปคบ. และอย. บุกจับร้านเจาะลักยิ้ม กลางตลาดนัด เขตจตุจักร ชี้เป็นอันตรายเสี่ยงปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว และติดเชื้อ

กรม สบส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปคบ. และอย. บุกจับร้านเจาะลักยิ้ม กลางตลาดนัด เขตจตุจักร ชี้เป็นอันตรายเสี่ยงปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว และติดเชื้อ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับตำรวจปคบ. และอย. จับกุมร้านแจ็ค ดอว์สัน ให้บริการเจาะลักยิ้ม โดยผู้ทีให้บริการมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ชี้เป็นอันตรายต่อประชาชนมีโอกาสปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว หรือติดเชื้อโรค ย้ำประชาชนให้เลือกรับบริการเสริมความงามจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น คืนวันที่ 4 สิงหาคม 2560 นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกฎหมายกรม สบส.ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบร้านแจ็ค ดอว์สัน (Jack Dorson) ซึ่งรับเจาะร่างกาย ตั้งอยู่ในตลาดนัดกลางคืน เขตจตุจักร กทม. นายแพทย์วิศิษฎ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบร้านแห่งนี้ พบนายธนธัช กาลมหา อายุ 49 ปี เป็นผู้ให้บริการเจาะลักยิ้ม และเจ้าของกิจการ เปิดบริการในวันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 19.30 – 01.30 น. ให้บริการทำลักยิ้ม เจาะ ขยาย กรีดหู ผ่าเนื้อนูน และขายยาชา ซึ่งผู้รับบริการส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นที่ทราบข้อมูลจากสื่อโซเชียล โดยวิธีการเจาะลักยิ้มนั้น ผู้ให้บริการจะทายาชาบริเวณแก้มผู้รับบริการ จากนั้นจะให้อมแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อในปาก ก่อนลงเข็มเจาะแก้มทีละข้างทะลุเข้าไปในช่องปาก หลังจากนั้นจึงใส่จิวติดไว้ที่แก้มทั้งสองข้าง ประมาณ 1-2 เดือน จึงกลับมาถอดจิวออก ซึ่งการเจาะลักยิ้มด้วยวิธีดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำต่อมนุษย์ และเป็นการเสริมสวย ตามนิยามในมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ที่จะต้องกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตจากแพทยสภาเท่านั้น ดังนั้น กรม สบส.ในฐานะองค์กรหลักในการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ได้รับบริการด้านระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัย จึงร่วมกับ บก.ปคบ. และ อย.ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเจ้าของร้าน 2 กระทง ได้แก่ ได้แก่ 1) ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2) จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท นายแพทย์วิศิษฎ์ กล่าวต่อว่า การใช้เข็มเจาะเข้าไปที่บริเวณแก้มเพื่อทำลักยิ้ม โดยบุคคลที่มิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม นับว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายของประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะบนใบหน้าประกอบไปด้วยเส้นประสาท และกล้ามเนื้อจำนวนมาก หากผู้กระทำไม่มีความรู้ และความเชี่ยวชาญ ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ปากเบี้ยว ใบหน้าผิดรูป และอาจเกิดการติดเชื้อที่บาดแผล จนแผลเน่า หรือติดโรคติดต่อจากเข็มที่ใช้เจาะได้ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนเลือกรับบริการเสริมความงามจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น หากประชาชนพบการกระทำผิดของหมอเถื่อน หรือสถานพยาบาลเถื่อน สามารถร่วมเป็นเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคได้ โดยแจ้งเบาะแสมาที่ กรม สบส. หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18822 ในวันและเวลาราชการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป